รีวิว Philips 242B1 | จอมอนิเตอร์สุดครบครัน ฟังก์ชั่นจัดเต็ม

วันนี้เราอยู่กับหน้าจอ Philips 242B ขนาด 24 นิ้ว จอ LCD ความละเอียดระดับ Full HD ที่มาพร้อมกล้องเว็บแคม ไมค์ และลำโพงในตัว และยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ อีกเพียบ ก่อนอื่นเลยเรามาดูรอบๆ ตัวเครื่องกันก่อนค่ะ ดีไซน์ออกแบบมาได้สวยงาม หน้าจอเป็นแบบไร้ขอบทั้งหมด 3 ด้าน ช่วยเพิ่มพื้นที่การมองเห็นทำให้ภาพที่ออกมาดูเต็มตา เพราะไม่มีขอบมารบกวนสายตาเลยค่ะ

การเชื่อมต่อก็ให้มาครบเลยค่ะ เรียงกันอยู่ด้านล่างของจอ สามารถเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลาย มีทั้ง VGA / DVI-D / HDMI / DisplayPort และยังมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB มาให้ด้วย โดยจะเป็น USB-B จำนวน 1 ช่อง และ USB 3.2 จำนวน 3 ช่องค่ะ โดย 1 ช่องตรงนี้จะเป็นแบบ fast charge มาให้ด้วย ถัดมาเป็นช่อง 3.5มม สำหรับต่อไมค์และหูฟังค่ะ

ความละเอียดของหน้าจอแบบ Full HD ขนาด 1920 x 1080 ที่ 75 HZ อัตราส่วนอยู่ที่ 16 ต่อ 9 (16:9) โดยสีของหน้าจอมากถึง 16.7 ล้านสี มาพร้อมกับลำโพงแบบสเตอริโอในตัว 1 คู่ ซึ่งสามารถแยกเสียงซ้ายขวาและมีมิติแต่เสียงจะค่อนข้างเบาเล็กน้อย และก็มีตัวไฮไลท์อย่างกล้องเว็บแคมบริเวณด้านบนของจอที่จะเด้งขึ้นมาเมื่อต้องการใช้งานและสามารถพับเก็บได้อย่างปลอดภัยเมื่อไม่ได้ใช้งาน เว็บแคมตัวนี้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซลใช้คู่กับไมโครโฟนในตัว และสามารถใช้งานได้กับ Window 10 Hello ได้อีกด้วยค่ะ

สำหรับใครที่ทำงานด้านกราฟฟิกไม่ว่าจะเป็นการแต่งรูป การตัดต่อวิดีโอ หรือการออกแบบต่างๆ ที่ต้องการความถูกต้องของสี ต้องบอกเลยว่าสามารถใช้จอตัวนี้ในการทำงานได้สบายมากๆ เพราะมีค่า sRGB ถึง 100% ไม่ต้องกลัวว่าสีจะเพี้ยน เพราะจอสามารถแสดงค่าขอบเขตสีได้อย่างครบถ้วนเลยค่ะ

จอ Philips 242B ตัวนี้ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างยั่งยืน (sustainability) สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 70% เพราะในจอมี PowerSensor ที่จะตรวจจับตัวบุคคลว่าผู้ใช้กำลังใช้งานหน้าจออยู่หรือไม่ ถ้าผู้ใช้ออกห่างจากจอหรือโต๊ะทำงานก็จะปรับแสงลดลงโดยอัตโนมัติ นอกจากช่วยลดพลังงานยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของหน้าจออีกด้วยค่ะ นอกจากมีเซ็นเซอร์ที่ปรับแสงอัตโนมัติขณะออกห่างจากหน้าจอแล้วยังมี LightSensor ที่สามารถปรับความสว่างของหน้าจอได้อัตโนมัติตามความสว่างของห้องขณะใช้งานอีกด้วย

สำหรับตัวหน้าจอมีเทคโนโลยี IPS ที่ทำให้หน้าจอมีความคมชัดและสีสันสดใส และทำให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา แล้วยังมีเทคโนโลยี SmartImage ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะจากทาง Philips ที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของหน้าจออีกด้วยค่ะ ซึ่งการใช้งานก็ง่ายสามารถเลือกโหมดต่างๆตามที่ต้องการได้เลย โดยกดปุ่มที่หน้าจอแล้วเลือกได้เลยไม่ว่าจะเป็นโหมด (Easy Read) ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านกระดาษจริง, ออฟฟิศ (Office), ภาพ (Photo), ภาพยนตร์ (Movie), เกม (Game), ประหยัด (Economy) ที่จะช่วยให้ประหยัดพลังงาน นอกจากโหมดต่างๆ แล้วยังสามารถปรับความอิ่มตัวของสี (colour saturation), ค่าคอนทราส (contrast) และความคมชัดของภาพ (sharpness) ได้อีกด้วย

จอนี้ยังมีเทคโนโลยี Adaptive-Sync ที่ช่วยปรับหน้าจอให้รีเฟรชได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น และตอบสนองได้เร็วเป็นพิเศษอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรอง TUV Eye Comfort ในการลดความเมื่อยล้าของดวงตาเมื่อใช้จอเป็นเวลานาน อย่างที่ทราบกันว่าแสงสีฟ้าจากหน้าจอ LCD เป็นอันตรายต่อสายตา ทาง Philips ได้พัฒนาเทคโนโลยีมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบายและลดอันตรายลง อย่างโหมด LowBlue ซอฟแวร์อัจฉริยะที่จะช่วยลดแสงสีฟ้า, เทคโนโลยีลดการสั่นไหวที่สามารถควบคุมความสว่างของหน้าจอและลดการสั่นไหวเพื่อการรับชมที่สบายตา, และจอสามารถลดการสะท้อนจากการเคลือบหน้าจอได้อีกด้วย

นอกจากสุขภาพที่ดีของดวงตาแล้วดีไซน์การออกแบบของหน้าจอ ก็ถูกออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์ (SmartErgoBase) สามารถปรับแต่งหน้าจอให้เหมาะสมตามการใช้งาน โดยสามารถปรับระยะความสูงได้ 15 ซม / หมุนหน้าจอได้ 90 องศา / และตัวฐานสามารถปรับหมุนได้ 180 องศา ความเอียงของหน้าจอก็สามารถปรับได้ตั้งแต่ -5 ถึง 30 องศาเลยละค่ะ

โดยสินค้าประกันศูนย์ไทย 3 ปี สามารถสั่งซื้อได้ที่ Philips 242B1H

 

 833 total views,  1 views today

You cannot copy content of this page