รีวิว Yeelight LED Bedside Lamp D2 โคมไฟอัจฉริยะสไตล์ Minimal มินิมอล

วันนี้เราอยู่กับโคมไฟหน้าตามินิมอลแต่ประโยชน์มากมายจริงๆ นั่นคือ โคมไฟอัจริยะ Yeelight LED Bedside Lamp D2 นั่นเอง! เราจะนำไปใช้ตอนดูหนัง ฟังเพลง หรือ สร้างบรรยากาศของห้องก็ทำได้ ไม่ว่าจะเป็น Mood โทนอบอุ่น หรือ โทนเย็นก็สามารถปรับได้ตามใจเราเลย! และเรื่องการสั่งการน้องก็สามารถให้เราสั่งการได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสทางโคมไฟโดยตรง การสั่งการผ่านเสียง และ การเคาะตัวโคมไฟ 2 ทีที่เรียกว่า Knock Knock! แล้วที่เล่ามามันเป็นยังไง? ไปดูกัน!

มาเริ่มกันที่ราคาของเจ้าตัวโคมไฟตัวนี้กันก่อนเลย! น้องจะมีราคาอยู่ที่ 1490 บาท สำหรับทุกคนคิดว่าแพงรึเปล่า? ก็ต้องบอกว่าในสมัยนี้ไอเทมที่มีหน้าตามินิมอลมักจะมีราคาที่สูงเอาเรื่อง แต่เจ้า Yeelight LED Bedside Lamp D2 ตัวนี้ต้องบอกว่ามีดีทั้งความสวยและความฉลาด ดังนั้นเรามาดูกันก่อนจะติดสินใจก็แล้วกันว่าน้องจะสมเหตุสมผลกับราคาที่เราว่ามาไหม?

เริ่มกันที่น้องสามารถสั่งการผ่านเสียงได้โดยการใช้แอพบนมือถือ หรือจะสัมผัสโดยตรงกับโคมไฟก็ทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็สามารถใช้ได้กับอีกหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะใช้ตอนดูหนัง ฟังเพลง ใช้ตอนเล่นเกม หรือ จะเป็นโคมไฟหัวเตียง ที่สร้างบรรยากาศต่างๆให้กับเรา และน้องมีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก ค่อนข้างจะมีขนาดพอเหมาะทำให้เราสามารถขยับหรือย้ายไปย้ายมาได้อย่างไม่มีอุปสรรค

เราสามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟได้ด้วยการสัมผัสตรงด้านหน้าของน้อง 1 ที และถ้าอยากจะปรับความสว่างหรือเปลี่ยนสีไฟ ก็สามารถทำได้ด้วยการสไลด์ซ้าย-ขวานั่นเอง! นอกจากการสัมผัสเรายังสามารถสั่งการได้อีก 2 รูปแบบด้วยกัน อย่างการ Knock Knock ที่จะเป็นการเคาะ 2 ที จะเป็นการเปิด-ปิดตัวโคมไฟ โดยที่เราไม่ต้องสัมผัสโคมไฟ

เราสามารถสั่งการต่างๆผ่านแอพพลิเคชั่น ที่นอกจากจะตั้งค่าต่างๆแล้วก็ยังสามารถสั่งการผ่านเสียงได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งระบบปฏิบัติการของแต่ละมือถือก็จะมีแอพที่ต่างกัน อย่างของ IOS ก็จะใช้แอพที่่ชื่อว่า Apple Homekit ส่วนทางฝั่งของ Android ก็จะมีความยุ่งยากนิดหน่อยตรงที่ใช้หลายแอพ ก็จะมีแอพที่ชื่อว่า Yeelight ที่จะเป็นแอพโดยตรงทำให้เราสามารถปรับสี ความสว่างได้อย่างละเอียด แต่ถ้าฝั่งแอนดรอยด์อยากจะสั่งการด้วยเสียงก็ต้องใช้แอพที่มีชื่อว่า Google Home นั่นเอง!

โคมไฟตัวนี้มีความสว่างอยู่ที่ 40 ถึง 140 ลูเมน อาจจะดูเหมือนเยอะแต่ว่าด้วยความที่น้องถูกออกแบบมาให้เป็นโคมไฟสีขาวขุ่นๆ ทำให้แสงไฟจะไม่ได้สว่างมากจึงไม่ค่อยเหมาะกับการนำมาใช้เป็นไฟหลักแต่จะเหมาะกับการใช้เป็นไฟที่เอาไว้ปรับบรรยากาศซะมากกว่า และด้วยที่เป็นไฟ LED เราจึงสามารถปรับสีไฟได้ถึง 16 ล้านสี จะปรับเป็นไฟโทนร้อนหรือโทนเย็นก็ได้ตามใจเรา และน้องยังมีโหมดไฟต่างๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโหมดไฟแบบกระพริบ โหมดไฟ breathing หรือลูกเล่นต่างๆ อย่าง Candle Frickering ก็มีให้ปรับอีกมากมายในแอพพลิเคชั่น Yeelight เลย 

ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะน้องสามารถตั้งเวลาต่างๆได้ เช่น การตั้งเวลาปิดหรือการตั้งเวลาให้เปิดในเวลาที่ต้องการ ทำให้เราสามารถตื่นขึ้นมาในบรรยากาศที่อบอุ่นได้ในทุกเช้า หรืออาจเป็นระบบ Sleep Mode ที่จะช่วยบรรเทาความเครียดระหว่างการนอนหลับ และให้เรามีการพักผ่อนที่ผ่อนคลายในตอนกลางคืนได้ด้วยแสงอ่อน ๆ อีกด้วย

วิธีใช้การสั่งการผ่านเสียงสำหรับมือถือ Android ก็สามารถทำได้ด้วยวิธีนี้

อย่างแรกให้เราโหลดแอพ Yeelight มาก่อนแล้วก็ให้เราทำการเชื่อมต่อแอพ Yeelight เข้ากับ Mi home ให้เสร็จ ต่อมาก็เชื่อม Mi home เข้ากับแอพที่ชื่อว่า Google Home อีกทีนึง โดยแนะนำให้ทุกคนทำไปทีละขั้นตามที่ได้บอกไว้ เพราะถ้าลัดขั้นตอน หรือไม่เชื่อมตามนี้ จะทำให้แอพบัคและมีปัญหาได้ ดังนั้นถ้าเราไม่อยากให้มันเกิดปัญหาขึ้นก็ควรทำตามขั้นตอนนี้เลย

อย่างไรก็ตามที่ได้บอกไปคือแอพที่เอาไว้ใช้กับโทรศัพท์มือถือเท่านั้น และยังไม่ครอบคลุมถึงการนำโคมไฟ Yeelight LED Bedside Lamp D2 ไปใช้กับการเอนเตอร์เทนต่างๆ เพราะถ้าเราจะนำไปใช้กับ Smart TV ก็จะต้องโหลดแอพที่มีชื่อว่า Yeelight Orchestra และถ้าจะนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์ก็ต้องใช้แอพที่มีชื่อว่า Yeelight Station นั่นเอง!

แต่เราก็มีข้อควรระวังไว้ให้สำหรับใครที่ต้องการนำโคมไฟไปใช้กับ Smart TV เพราะเราต้องมั่นใจซะก่อนว่าแอพ Yeelight Orchestra นั้นสามารถโหลดในทีวีรุ่นของเราได้ ถ้าเกิดมันเตือนว่า’แอพนี้ไม่สามารถใช้กับทีวีของคุณได้’ เราก็จะไม่สามารถใช้งานโคมไฟกับทีวีของเราได้!

สำหรับข้อสังเกตของ Yeelight LED Bedside Lamp D2 ก็จะเป็นการที่โหมด Knock Knock นั้นจะสร้างความรำคาญให้กับเราเวลาใช้งานบนโต๊ะคอมมากๆ เพราะเวลาเราทำงาน เล่นเกม แล้วเผลอวางของบนโต๊ะเป็นเหมือนจังหวะเคาะสองที การสั่นสะเทือนมันจะทำให้โคมไฟคิดว่าเราเคาะน้องเพื่อเปิดหรือปิดไฟนั่นเอง! ดังนั้นก็เป็นข้อสังเกตนึงสำหรับการวางน้องไว้บนโต๊ะคอม อีกเรื่องก็คือความยุ่งยากในการเชื่อมต่อแอพ เพราะตามปกติเราควรลงแค่แอพของตัวโคมไฟแล้วก็แอพ Google Home เพื่อทำการใช้คำสั่งผ่านเสียงได้เลย แต่กับผู้ที่ใช้ระบบแอนดรอยด์เชื่อมกับโคมไฟ Yeelight นั้นกลับจำเป็นที่จะต้องโหลดแอพถึง 3 ตัวเพื่อให้ใช้งานให้ได้ครบฟังก์ชั่นนั่นเอง!

สรุปเลยสำหรับตัวโคมไฟ Yeelight LED Bedside Lamp D2 ตัวนี้ ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าในราคานี้เพราะนอกจากเราจะซื้อมาเพราะความสวยงามแบบมินิมอลแล้วเนี่ยเรายังสามารถเอาไว้ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับบรรยากาศในห้อง หรือปรับสีห้องให้เป็นสีตามที่เราอยากได้ นอกจากนั้นยังใช้กับสมาร์ททีวีและคอมพิวเตอร์ได้ด้วยเช่นกัน โคมไฟตัวนี้นอกจากสวยแล้วยังฉลาดอีกต่างหาก ถือว่าเป็นไอเทมที่ควรมีสำหรับสร้างบรรยากาศเลยจริงๆ 

หวังว่าทุกคนจะชอบบทความนี้และสนใจโคมไฟตัวนี้กันไม่มากก็น้อย ถ้าใครสนใจก็สามารถหาซื้อกันที่ลิงค์นี้ได้เลย! https://bit.ly/456iV0V ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้า! 

 

You cannot copy content of this page