Instax mini 12 กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่

Instax mini 12 ได้ทำการวางจำหน่ายแล้วซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ได้น่าสนใจมากๆในปีนี้ ซึ่งทาง Fujifilm ประเทศไทยได้ทำการเปิดตัวกล้อง Instax รุ่นใหม่ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด Fill your world with Joy. ที่จะนำพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์ความ Pop ในรูปแบบกล้อง Instax mini 12 ที่ เพิ่งออกมาในรูปแบบของ Bubble นั่นเอง

 

และหลังจากที่เราได้ไปร่วมสัมผัสประสบการณ์งานเปิดตัวและได้พูดคุยกับทีม Staff ของทาง Fujifilm แล้วได้ข้อมูลที่น่าสนใจ และในวันที่เรากำลังเขียนบทความนี้เราจึงขอเอาเรื่องราวที่ได้รับมาเล่าให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับ Instax mini 12 มากขึ้น

 

 

เมื่อพูดมาถึงขนาดนี้เรามาเริ่มสำรวจ Instax mini 12 ตัวนี้กันดีกว่า กล้องตัวนี้ที่ทางฟูจิเพิ่งเปิดตัวออกมามีรูปร่างที่เล็กกะทัดรัดมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Mini รุ่นก่อนหน้า โดยเขาออกแบบให้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมขอบมนทำให้มีความทันสมัยมากขึ้น

 

 

ดูจากรูปภาพจะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์อย่างเห็นได้ชัด แต่ในส่วนของตำแหน่งแฟลช / View Finder / และปุ่ม Shutter ยังอยู่ที่ตำแหน่งเดิม เพิ่มเติม คือปุ่มชัตเตอร์ที่นูนออกมา ทำให้เรากดถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แต่ด้วยความง่ายในการกดนี้เอง ทำให้บางครั้งที่เราไปสัมผัสโดนโดยไม่ตั้งใจ ด้วยแรงกดที่เหมาะสมก็อาจจะทำให้กล้องลั่นเองได้ ถือเป็นข้อควรระวังในจุดนี้

 

อีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดก็คือวิธีการเปิดกล้อง ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ง่ายมากขึ้นด้วยการหมุนวงแหวนบริเวณเลนส์แทนที่จะเป็นการกดปุ่มตรงใต้เลนส์เหมือนรุ่นก่อน ทำให้เวลาที่เราต้องการเปิดกล้องจึงต้องหมุนหน้าเลนส์แทน

 

 

ซึ่งสาเหตุที่สามารถเปลี่ยนวิธีการเปิดเป็นรูปแบบนี้ เพราะทาง Fujifilm ได้ทำการเปลี่ยนระบบการถ่ายภาพจากการเลือกเปลี่ยนโหมดเป็นแบบ Automation ที่จะทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าเราจะปรับโหมดผิดหรือลืมเปลี่ยนโหมดและทำให้เราเสียฟิล์มไปเปล่าๆ นี่จึงถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้นนั่นเอง

 

และสำหรับผู้ใช้งานที่เคยซื้อหรือเคยเล่นกล้อง Instax มาก่อน ก็จะเจอปัญหาเล็กอย่างนึงที่ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่มากแต่ก็กวนใจอยู่ไม่น้อย นั่นก็คือภาพที่ได้อาจจะไม่ตรงกับภาพที่เห็นใน View Finder ที่ทำให้เราต้องกะระยะเพื่อคนหรือวัตถุที่เราต้องการใม่ตกขอบไปนั่นเอง ซึ่งทาง Fujifilm ได้คำนึงถึงในจุดนี้และได้ออกแบบเพิ่มเติมโดยมีการเพิ่ม Feature ที่เรียกว่า Parallax Correction เข้ามา ซึ่งเป็นกระจกที่จะช่วยปรับมุมใน View Finder ให้ตรงกับบริเวณหน้าเลนส์มากที่สุด หลังจากที่ทีมงานของเราได้ทดลองใช้งานแล้วพบว่ามันมีส่วนช่วยมากๆ ในการทำให้วัตถุอยู่ตรงกลาง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ช่วยให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นอีกเลย โดยเฉพาะเวลาที่เราใช้โหมดถ่ายภาพระยะใกล้ ซึ่ง mini 12 ได้ใส่ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพแบบ Close-up ที่จะช่วยให้เราถ่ายใกล้โดยที่หน้าของเราจะไม่เบลอ

 

เมื่อพูดถึงเรื่องของเรื่องของกล้องถ่ายภาพแล้วจะไม่พูดถึงภาพก็คงไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจะทำการเปรียบเทียบภาพให้ทุกคนได้เห็นกัน

 

จะเห็นได้ว่าฟีลภาพค่อนข้างมี Contrast ของแสงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับ mini 9 ที่จะมีความฟุ้งของภาพมากกว่า และให้สีที่ตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น แต่ด้วยความที่เป็น Automation ทำให้เราไม่สามารถที่จะตั้งค่าได้เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าได้ เวลาที่เราต้องการจะปรับอะไรสำหรับรุ่นนี้ทำไม่ได้แล้ว แต่เพื่อแลกกับความง่ายในการ Point and Shoot ก็ถือเป็นข้อดีของรุ่นใหม่นี้เลยและเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วย

จากทั้งหมดทั้งมวลที่เราได้พูดไปนั้นคือสิ่งที่มีอยู่ใน Instax mini 12 ที่เพิ่งออกมาวางจำหน่าย จากใจของผมที่เป็นคนถ่ายภาพก็บอกได้เลยว่ากล้องตัวนี้ใช้งานค่อนข้างง่าย เมื่อเทียบกันกับ instax mini 9 ที่เราสามารถเลือกโหมดได้เอง แต่ถ้าในเรื่องของภาพที่ได้ต้องบอกว่าแตกต่างกันซึ่ง ณ จุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน รวมถึงสภาพแสงที่กำลังถ่าย แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะอย่างไรกล้องถ่ายภาพเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราบันทึกโมเม้นต์สำคัญในขณะนั้น ซึ่งเราไม่อาจจะหวนคืนมาได้อีกแล้ว “อย่าให้ความสนุก เป็นเพียงแค่ความทรงจำ” ให้ Instax mini 12 เป็นสิ่งที่ช่วยเก็บบันทึกสิ่งนี้เอาไว้ ถ้าหากใครที่สนใจดูรีวิวกล้อง mini 12 แบบเจาะลึก ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลย

 

 

You cannot copy content of this page