1.การออกแบบ ดีไซน์
มาดูในส่วนของดีไซน์ของตัวหูฟังกันก่อน EGA Type H8 ตัวนี้ ดีไซน์แบบเกมเมอร์จ๋าๆ เลยค่ะ ตัวหูฟังมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ในส่วนของสายคาดหัวจะเป็นลายหนังที่มีโลโก้ของ EGA แบบนี้เลยค่ะ ในฟีลลิ่งที่ดูแพงเกินราคามาก มีความยืดหยุ่นสูงค่ะ ปรับได้ตามสรีระของผู้ใส่ และด้านบนเหนือสายคาดหัวตรงนี้เป็นอะลูมิเนียมที่ค่อนข้างแข็งแรง บิดงอได้ ยืดหยุ่นทีเดียวค่ะ มองแยกแต่ละองค์ประกอบแล้วสวยทุกจุด แต่พอเอามาประกอบกันแล้วดันขาดๆ เกินๆ ซะงั้น พอใส่แล้วรู้สึกได้ไม่สมดุล ง่ายๆ คือใส่ออกมาแล้วไม่สวยเท่าไหร่ค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องดีไซน์นี่แล้วแต่คนชอบเลยค่ะ
ส่วนหูฟัง Corsair HS70 Bluetooth ตัวนี้เป็นแบบครอบหูแบบ Full Size ตัวเครื่องเป็นสีดำทั้งหมด เป็นแบบดำด้านด้วยนะคะ ทำให้มีความสวยงามหรูหรา เหมาะมากๆ กับคนที่ชอบความเรียบหรูค่ะ รวมทั้งวัสดุที่นำมาใช้งานเนี่ยก็ดูมีความพรีเมี่ยมตามแบบฉบับของแบรนด์ Corsair เลยค่ะ ด้านข้างของหูฟังทั้งสองข้างออกแบบโดนใช้ตะแกรงสีดำ โดยมีโลโก้รูปเรือใบโจรสลัดที่เท่มากๆอยู่ตรงกลางอีกด้วย
มาดูกันต่อที่ส่วนคาดศีรษะด้านบนมีการสกรีนชื่อ Corsair อยู่ขนาดไม่ใหญ่มาก ส่วนที่สัมผัสศีรษะด้านบนทำมาจากเมมโมรี่โฟมที่นุ่มนิ่มมากๆ และตัวโครงทำมาจากอะลูมิเนียมทำให้น้ำหนักเบาและแข็งแรงทนทาน มีตัววัดระดับบอกขณะเลื่อนได้ ซึ่งตรงส่วนนี้ถือว่าเป็นความชอบส่วนตัวแล้วกันค่ะ ถือว่าตอบโจทย์เวลาใช้งานมากเลยค่ะ
ที่สำคัญเนี่ยตรง Ear Cushion หรือที่ครอบหู ก็ถือว่าทำออกมาขนาดใหญ่เลยทีเดียว สามารถครอบหูได้ทั้งหมดสวมใส่ได้สบายไม่กดด้านข้าง วัสดุทำมาจากเมมโมรีโฟมหุ้มด้วยหนัง PU ให้ความรู้สึกขณะสวมใส่ที่สบายมากๆ แล้วยังสามารถกันเสียงรบกวนจากด้านนอกได้ในระดับนึงอีกด้วยค่ะ
ส่วน Ear Cushion ของ EGA Type H8 ก็เป็น เมมโมรีโฟม หุ้มหนัง PU เหมือนกันค่ะ หนานุ่มทีเดียว แต่ใส่ไปนานๆ อาจจะมีร้อนหูบ้างนะคะ เรียกว่าระบายอากาศไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่เรื่องใส่สบายนี่ต้องให้เขาเลยค่ะ ใส่ได้ทั้งวัน ไม่รู้สึกว่าโดนหูฟังบีบเลยค่ะ
เรามาดูปุ่มควบคุมต่างๆ บนตัวหูฟังกันต่อค่ะ สำหรับ Corsair HS70 Bluetooth ตัวนี้นะคะ มาพร้อมสวิตซ์เปิดปิดและไฟ LED แสดงสถานะการใช้งานที่หูฟังด้านขวาค่ะ ส่วนหูฟังด้านซ้าย มาพร้อมช่องเสียบไมค์ , ช่องต่อสัญญาณเข้าแบบ 3.5 มม. , ช่องสำหรับต่อสาย USB-C สำหรับเชื่อมต่อและชาร์ตแบตเตอรี่ , ปุ่มสำหรับเปิดปิดไมค์ และแถบเลื่อนเพื่อควบคุมความดังของเสียงหูฟัง ซึ่งการที่ปุ่มควบคุมอยู่ที่ข้างซ้ายข้างเดียวก็ทำให้สามารถควบคุมการใช้งานหูฟังด้วยมือเดียวได้ง่ายค่ะ
ในส่วนของ EGA Type H8 เนี่ย ด้วยความที่เป็นหูฟังมีสายก็จะไม่ได้มีช่องเยอะแยะเหมือนของพี่แจนค่ะ แต่ที่บริเวณหูซ้ายจะมีปุ่มปรับระดับเสียงขึ้นลงได้ค่ะ
และในส่วนของการเชื่อมต่อของ Corsair HS70 Bluetooth ทำได้ทั้งแบบใช้สายและแบบไร้สายโดย Bluetooth 5.0 หูฟังมาพร้อมสาย 3.5 มม. ขนาด 1.5 เมตร, สาย USB-A to USB-C ขนาด 1.8 เมตร ทำให้ใช้งานแบบมีสายได้โดยทั้งสองสายเป็นสายถักทำให้มีความแข็งทนทานมากอีกด้วยค่ะ
สำหรับของ EGA Type H8 จะเชื่อมต่อ จะเชื่อมต่อแบบ Plug and Play ผ่าน USB Gold plate ที่ช่วยนำสัญญาณได้เป็นอย่างดีค่ะ ตัวสายของหูฟังตัวนี้นะคะ เป็นวัสดุยาง ความยาว 2.2 เมตร ไม่ต้องห่วงเรื่องระยะการใช้งานเลยค่ะ บอกเลยว่าเหลือเฟือ
2.เสียง
เรามาดูในส่วนของเสียงกันบ้างค่ะ ทั้ง 2 ตัวมาพร้อมไดรเวอร์ 50 มม. ค่ะ และมีระบบเสียง Virtual Surround 7.1 ซึ่งทำให้ได้ยินเสียงรอบทิศทาง สร้างความสมจริงให้กับเสียง ถ้าใส่เล่นเกมก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเกมที่สมจริงกว่า รวมไปถึงช่วยในการระบุทิศทางให้แม่นยำขึ้น เสียงดูมีมิติมากขึ้นด้วยค่ะ
จากที่ลองเอา EGA Type H8 ไปฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมดูคร่าวๆ ก็โอเคเลยนะคะ แน่นอนแหละ เพราะสเปคจัดมาเต็มขนาดนี้ แยกซ้ายขวาได้ดี ระบุทิศทางในเกมได้ค่อนข้างชัด พอเอาไปใช้ฟังเพลงแล้วรู้สึกว่าเสียงเบสเขาจะไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ค่ะ น่าจะทำมาเพื่อการเล่นเกมที่จะเหมาะกับเสียงเบสนุ่มๆ ที่ทำให้ได้ยืนเสียงอื่นๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับ Corsair HS70 Bluetooth แล้วเนี่ยก็รู้สึกได้เลยว่าเสียงมีความใสแล้วก็ชัดเจนมากๆอีกด้วยค่ะ สำหรับการแยกทิศทางของเสียง ซ้ายขวา หน้าหลัง ก็ถือว่าทำได้ดีเช่นเดียวกันค่ะ แล้วเรื่องการดูหนังฟังเพลงเนี่ยก็สามารถใช้งานได้ เพราะเสียงเบสไม่ได้แน่นมาก ถือว่าทำออกมาให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายค่ะ
3.ไมโครโฟน
สำหรับไมโครโฟน ของ EGA Type H8 นะคะ เรามาลองฟังกันเลยค่ะ ฮัลโหล หนึ่งสองหนึ่งสองหนึ่ง ไมค์ที่มากับหูฟังเป็นไมค์แบบสั้นที่ปรับได้อิสระแบบ 360 องศา ตัวไมค์มีระบบตัดเสียงรบกวน และมีไฟแสดงสถานะของไมค์ด้วยค่ะ ซึ่งไฟแสดงสถานะไม่สามารถปิดได้ แต่สำหรับคุณภาพเสียงที่ได้ ต้องใช้คำว่าโอเค ชัดเจน คุยรู้เรื่อง แต่ไม่ได้คมขนาดนั้น มีความอู้อี้นิดหน่อย ตัดเสียงรบกวนได้ในระดับนึง แต่ก็ยังพอมีเข้ามาให้ได้ยินบ้างค่ะ และก็เสียงเบา คิดว่าน่าจะเป็นเพราะไมค์เขาสั้นเกินไปและทำให้ไมค์ไปอยู่ด้านข้าง ไม่ได้อยู่ในระดับที่รับเสียงได้ดีเท่าที่ควรค่ะ แต่ถ้าใครไม่คิดมากเรื่องไมค์ มองข้ามได้ ก็จัดเลยค่ะ
ในส่วนของ Corsair HS70 Bluetooth รู้สึกได้เลยนะคะว่าเสียงมีความชัดเจน ใส ไม่มีเสียงอื่นแทรกขณะใช้งาน ตัวไมโครโฟนสามารถถอดแยกออกได้จากตัวหูฟังค่ะ ทำให้สามารถพกพาได้สะดวก และเมื่อไม่ได้เชื่อมต่อหูฟังก็มีตัวฝาครอบเป็นจุกยางสกรีนโลโก้ในการปิดช่องเชื่อมต่อด้วยค่ะ ถือว่าใส่ใจรายละเอียดตรงส่วนนี้มากๆเลย เพราะสามารถช่วยกันฝุ่นได้อีกด้วย ไมโครโฟนเชื่อมต่อโดยใช้แจ็ค 3.5 mm โดยตัวก้านไมค์สามารถปรับได้ตามการใช้งานเลยค่ะ ถือว่าปรับใช้งานได้ง่าย แล้วยังมาพร้อมฟองน้ำเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอกอีกด้วย สำหรับการใช้งานทั่วไปสามารถทำได้ดีเลยค่ะ และยังได้รับการรองรับใช้งานกับแอพพลิเคชั่นยอดนิยมอย่าง Discord เป็นหูฟัง Discord – certified ที่มั่นใจได้ว่าเสียงจะมีเสถียรภาพ คมชัด และความใสชัดเจนของเสียงระหว่างการสนทนาอีกด้วยค่ะ
4.ฟีเจอร์พิเศษ
ในหัวข้อสุดท้ายนะคะเราจะมาพูดถึงฟีเจอร์อื่นๆ ของตัวหูฟังกันบ้างค่ะ ว่าทำอะไรได้อีก มีของเล่นอะไรมั้ย
ซึ่งสำหรับ EGA Type H8 จะมี Software มาให้ด้วยค่ะ ซึ่งสำหรับ Software สามารถปรับแต่ง EQ หรือ EQUALIZER ได้ ซึ่งทำให้ปรับเพิ่มลดเสียงเบส เสียงกลาง เสียงแหลม เพื่อทำให้คุณภาพของเสียงเป็นตามที่เราต้องการมากที่สุด สามารถปรับเอฟเฟคของเสียงได้ ทำให้ได้อรรถรสในการฟังมากขึ้นค่ะ และปรับได้อีกหลากหลายรูปแบบ สำหรับการปรับในส่วนของดีเทลเสียงก็ถือว่าทำได้ละเอียดมากๆ ค่ะ
แน่นอนว่า Corsair HS70 Bluetooth ก็มี Software มาให้ใช้งานรับแต่งเสียงได้เพิ่มเติมเหมือนกันค่ะ โดยสามารถใช้งานร่วมกับ Software iCUE ในการปรับตั้งค่า Equalizer เสียงต่างๆ โดยเมื่อเข้ามาในโปรแกรมจะมีค่า Equalizer Presets มาให้เลือกใช้ค่ะ จะเป็นโหมดพื้นฐานเช่น แบบมาตรฐาน แบบสำหรับดูหนัง แบบที่เอาไว้ใช้เล่นเกมแนว FPS หรือแม้กระทั่งแบบที่เน้นเสียงเบสก็มีมาให้ค่ะ นอกจากนั้นยังสามารถตั้งค่าเองและเซฟเก็บไว้ได้อีกด้วยค่ะ ที่สำคัญเลยคือสามารถควบคุมระดับเสียงของไมโครโฟนได้ผ่านตัวซอฟแวร์เลยค่ะ
เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ตัวหูฟัง Corsair HS70 Bluetooth ยังสามรถเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เกมคอนโซลต่างๆ ได้ทั้ง Nintendo switch, PlayStation, Xbox หรือคอมพิวเตอร์ PC รวมทั้งสมาร์ทโฟนก็ยังใช้งานในการฟังเพลงหรือรับสายได้อีกด้วย ที่สำคัญสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงเลยค่ะ
นอกจาก Software แล้วนะคะ ตัว EGA Type H8 ตัวนี้ เขามีไฟ RGB มาเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งไฟ RGB จะอยู่บริเวณด้านข้างของหูฟังเป็นรูปทรงวงกลม และมีโลโก้ EGA แบบนี้เลยค่ะ ซึ่งจะเป็นไฟ LED ที่รันแบบ Auto ได้ถึง 16.8 ล้านสีค่ะ ข้อเสียคือไม่สามารถปรับได้ตามใจเราค่ะ
แล้วถึงแม้ว่าของพี่จะไม่มีไฟ RGB แต่ไฮไลท์สำหรับรุ่นนี้เลยก็คือสามารถใช้งานพร้อมกันได้ 2 Device คือ เชื่อมต่อผ่านสาย 3.5 mmหรือสาย USB และ เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth ค่ะ
สำหรับใครที่สนใจข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่