“เรียบหรู ละมุนมือ”
ดีไซน์สมมาตร แต่เหมาะกับผู้ใช้งานที่ถนัดมือขวาเท่านั้น เนื่องจากมีปุ่มลัดพิเศษอยู่ด้านซ้ายของตัวเมาส์ และมาพร้อมกับผิวสัมผัสที่นุ่มละมุนมือมากขึ้นด้วย Coating แบบใหม่ ทำให้แม้ว่าบอดี้จะเป็นพลาสติก แต่ก็ให้ความรู็สึกพรีเมี่ยม และยังคงคุณสมบัติที่ดีของพลาสติกนั่นก็คือความเบานั่นเอง
“เบา ไว ไร้แรงต้าน”
โดย Razer Viper V3 Pro จะเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ถนัดใช้งานเมาส์ที่มีขนาดกลาง แต่ไม่เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการน้ำหนักของเมาส์มากๆ เนื่องจากเมาส์มีน้ำหนักโดยรวมอยู่เพียง 55 กรัมเท่านั้น อีกทั้งด้านล่างตัวเมาส์ยังมาพร้อมกับแผ่น Feet สองแผ่นบริเวณด้านบนและด้านล่างของเมาส์ ทำให้เมาส์มีความโดดเด่นเรื่องของความไหลลื่น ให้ความรู้สึกไร้แรงต้านขณะใช้งาน จึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวสูงๆนั่นเอง
ยิ่งไร้สาย ยิ่งคล่องตัว
Razer Viper V3 Pro มาพร้อมกับการใช้งานไร้สาย ที่รองรับ Polling Rate ถึง 8000 โดยเชื่อมต่อไร้สายผ่าน USB-Dongle USB-A ที่หน้าตาอาจจะไม่คุ้นเคย โดยดีไซน์ใหม่ของ Dongle เป็นการรวมกันของ USB-Dongle แบบเก่า เข้ากับตัวขยายสัญญาณ หรือ Extension Cable ทำให้ตัวส่งสัญญาณ อยู่ใกล้เมาส์แบบสุดๆ แต่ก็จะแลกมากับการกินพื้นและการพกพาที่ไม่สะดวกมากนัก จึงทำให้อาจจะไม่เหมาะกับการพกพาไปใช้งานข้างนอก เพราะเวลาใช้งานจริง Dongle จะติดอยู่กับสายค่อนข้างยาว ทำให้เวลาใช้งานแทบไม่ต่างอะไรกับใช้งานเมาส์มีสาย แค่ต่างที่ไม่มีสายมาติดอยู่ที่เมาส์นั่นเองครับ และต้องขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่า Razer Viper V3 Pro ตัวนี้ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ ดังนั้นต้องรักษาตัว Dongle เอาไว้ให้ดี เพราะหากสูญหายเมาส์เกมมิ่งไร้สายสุดโปรตัวนี้ ก็จะกลายเป็นเมาส์มีสายตลอดไปนั่นเองครับ
❇️❇️❇️ ดีไซน์โดยรวมของ Razer Viper V3 Pro ❇️❇️❇️
ปุ่มกดที่สามารถปรับตั้งค่าได้ (MACRO)
Razer Viper V3 Pro สามารถปรับตั้งค่าปุ่มต่างๆ ของเมาส์ให้เป็นปุ่มลัดต่างๆ หรือ Action บางอย่าง (MACRO) ได้ ด้วยการเชื่อมต่อเมาส์เข้ากับโปรแกรม Razer Synapse ยกตัวอย่างเช่นปรับปุ่มลัดพิเศษ 1 ปุ่มด้านซ้ายของเมาส์เป็น Ctrl+C และ Ctrl+V ตามลำดับ เพื่อกดใช้คำสั่ง คัดลอก และ วาง ได้โดยไม่ต้องเอื้อมมือไปกดเองที่คีย์บอร์ด อีกทั้งยังสามารถตั้งค่า Action ต่างๆที่เกิดขึ้นลงเมาส์เพื่อประหยัดเวลาในการกดร้ายสกิลหรือที่ทุกคนรู้จักกันดีนั่นคือ MACRO นั่นเอง
Sensor Focus Pro 35K Optical Sensor GEN-2
Sensor ของ Viper V3 Pro มาพร้อมกับ Sensor Focus Pro 35K Optical Sensor Gen-2 สามารถใช้งานกับพื้นผิวได้หลากหลายแบบรวมถึงแผ่นแก้วด้วย และอีกการอัพเกรดเล็กๆ คือการปรับ DPI ที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยสามารถปรับได้ทีละ 1 หน่วยกันเลยทีเดียว และยังสามารับปรับ DPI ได้สูงสุดถึง 35000 หน่วย และยิ่งเกิดเป็นเมาส์เกมมิ่ง แน่นอนว่าจะต้องมาพร้อมกับความทนทานเพราะอาจจะต้องโดยกดย้ำๆ แรงๆ เพื่อให้การออกหรือสแปมสกิลได้ตามใจนึก โดย Razer Viper V3 Pro สามารถทนทานต่อการกดได้ถึง 90 ล้านครั้ง หมดปัญหาเรื่องเมาส์จมเมาส์เบิ้ลก่อนวัยอันควรได่อย่างแน่นอน