ในวันนี้เราอยู่กับไมโครโฟน DJI MIC 2 เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่สายทําคอนเทนต์ทุกคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี และแน่นอนว่าไมโครโฟนไร้สายตัวนี้สามารถตอบโจทย์ครบทุกสายคอนเทนต์จริง ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นคอนเทนต์สายไหน
เวลาออกไปข้างนอกก็พกไปเพียงกล้อง และกระเป๋าของ DJI MIC 2 ก็สามารถทำคอนเทนต์ได้อย่าง่ายดาย
วิธีการใช้งานง่ายมาก ๆ เพียงแค่เราทํหยิบออกมาจากกล่องก็สามารถใช้ได้ทันทีในโหมด Stand alone ซึ่งเราสามารถที่จะควบคุมผ่านตัว Receiver ได้ด้วยเช่นกัน
Receiver ของ DJI MIC 2 มีขนาดหน้าจอ 1.1 นิ้ว ไม่ว่าจะตั้งค่าใด ๆ เปิดโหมดต่าง ๆ หรือควบคุมไมค์ทั้ง 2 ตัวก็ทำได้ดีมากเช่นกัน
เรื่องของ Intelligent Noise Cancelling สามารถเปิดโหมดนี้ได้อย่างง่ายได้ โดยสามารถเปิดจากตัวไมค์เลย หรือจะเปิดจาก Receiver ก็ได้
DJI MIC 2 มีการอัดเสียงเป็นแบบ 32-bit ทำให้สามารถแก้ไขเสียงได้ง่ายดายมากขึ้น ไม่ต้องกังวลส่าเสียงจะแตกหรือไม่ แถมยังมี Safety Track มาช่วยในการควบคุมให้เสียงนั้นดังมากจนเกินไป
ข้อดี
1.สามารถใช้ได้หลายแพลตฟอร์ม เรียกว่าเป็นจุดแข็งของไมโครโฟนตัวนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากไมค์ตัวนี้สามารถเชื่อมได้ทั้งแบบ Dongle, Bluetooth หรือจะใช้เป็น Stand alone ทำให้สามารถใช้ได้ได้กับอุปกรณ์ทุกรูปแบบ
2.โหมด Intelligent Noise Cancelling ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ
3.ตำแหน่งการติดไมค์ ด้วยความที่ DJI MIC 2 มีแม่เหล็กมาให้ด้วยจึงทำให้การติดไมค์มีความอิสระมากขึ้น ง่ายมากขึ้น
4.ความง่ายในการควบคุม อยากที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ว่าจะใช้เป็น Stand alone หรือ ผ่าน Receiver ก็ควบคุมได้ง่ายเช่นกัน
5.Safety Track เป็นการตั้งค่าแบบหนึ่งที่จะช่วยในการควบคุมความดังของเสียงให้ไม่ดังเกินไปจนเสียงมีอาการแตก
ข้อสังเกต
1.ไม่มีชื่อไฟล์บอกในขณะที่กดอัด สายคอนเทนต์แบบเราย่อมมีการอัดกันหลายครั้ง การที่ไม่บอกชื่อไฟล์ทำให้ตอนตัดต่อนั้นทำได้ยากมากขึ้นและใช้เวลามากขึ้นเช่นกัน
2.โหมด Intelligent Noise Cancelling ที่คงความเป็นธรรมชาติมากเกินไปทำให้เสียงบางอย่างตัดได้ไม่หมด
3.น้ำหนัก อาจจะไม่ได้หนักมากแต่เมื่อติดกับเสื้อจะมีรอยยับเสมอ ทำให้อาจจะดูไม่เรียบร้อย