รีวิว Townew ถังขยะอัจฉริยะสุดไฮเทค! รุ่น T Air X & T Air Lite

 

ยุคนี้หลายคนคงคุ้นเคยกับคำว่า Smart Device ที่ช่วยทำให้บ้านของคุณกลายเป็น Smart Home ล้ำๆ ที่กำลังอินเทรนด์อยู่ตอนนี้ ซึ่งแต่ละอย่างก็พัฒนามาจากสิ่งธรรมดารอบตัวเรานี่แหละค่ะ เช่น หลอดไฟอัจฉริยะ ก๊อกน้ำอัตโนมัติ ที่ตอนออกมาแรก ทุกคนก็จะงงว่ามีทำไมนะ แต่พอได้ลองใช้แล้วก็กลายเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยล่ะค่ะ อีกสิ่งหนึ่งสำหรับเราเองก็ยังถือว่าแปลกใหม่และน่าสนใจมาก นั่นก็คือถังขยะอัตโนมัติ Smart Trash Can นั่นเองค่ะ โดยวันนี้เราจะพูดถึงถังขยะอัตโนมัติ Townew Smart Trash Can 2 รุ่น คือ T Air X และ T Air Lite ถังขยะที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ช่วยลดปัญหาการสัมผัสขยะ แล้วทั้ง 2 รุ่นนี้ น่าสนใจอย่างไร แตกต่างกันขนาดไหน และตัวไหนเหมาะกับใคร ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกกัน
 
เริ่มที่ดีไซน์ของทั้ง 2 รุ่นนี้กันก่อนเลยค่ะ ถังขยะของ Townew ทุกรุ่นนั้น จะเน้นการออกแบบสไตล์มินิมอล ทำให้เข้ากับบ้านหลากหลายสไตล์ วางมุมไหนก็ไม่รู้สึกขัดตา โดยตัวเครื่องใช้วัสดุพลาสติกที่ค่อนข้างมีคุณภาพ ออกแบบให้โค้งมน สำหรับบ้านไหนที่มีเด็กหรือมีใครที่ชอบเดินเตะนู่นเตะนี่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะชนแล้วเจ็บตัว แถมเจ้าตัวนี้ยังกันน้ำได้ในระดับ IPX3 ด้วยนะคะ ซึ่งสามารถป้องกันน้ำกระเด็นใส่ได้ไม่มีปัญหาค่ะ และจุดเด่นของถังขยะรุ่น T Air ก็คือหูจับด้านหน้า ที่เมื่อออกแบบมาจับคู่กับตัวถังแล้วให้ความรู้สึกถึงคำนิยามที่ว่า น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ซึ่งหูจับตัวนี้ไม่ได้มีดีแค่สวยนะคะ แต่ยังช่วยให้คุณเปิดตัวถังขยะได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องสัมผัสเยอะ โดยในรุ่น T Air Lite หูจับตัวนี้ยังช่วยบังช่องชาร์จไฟด้วย ทำให้ช่องชาร์จไม่มารบกวนสายตา แต่จุดแตกต่างสำหรับรุ่น T Air X ที่เพิ่มมาคือมีฝาปิด โดยจะใช้เซนเซอร์อินฟาเรดในการเปิดปิด ระยะเซ็นเซอร์อยู่ที่ประมาณ 35 เซนติเมตรค่ะ ทำให้ช่วยลดการสัมผัสและลดปัญหาเรื่องกลิ่นถังขยะได้ประมาณนึงเลยค่ะ

Townew Smart Trash Can T-Air X สีขาว

 

ไฮไลท์สำคัญของ Townew Smart Trash Can คือเทคโนโลยีการซีลและเปลี่ยนถุงขยะอัตโนมัติ โดยการซีลนี้เป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่คิดค้นจากทาง Townew ซึ่งเป็นการซีลถุงขยะโดยใช้ความร้อน ถุงขยะที่ซีลเสร็จจะปิดสนิท มั่นใจได้เลยว่าไม่มีรั่วซึมและไม่มีกลิ่นเล็ดลอดออกมากวนใจแน่นอนค่ะ หลังจากที่ซีลถุงขยะไปแล้ว เครื่องจะเตรียมถุงใหม่ให้เราทันทีเลย
 
วิธีการใช้งานของเจ้าเครื่องนี้ก็ถือว่าง่ายมาก ไม่ซับซ้อนเลยค่ะ ในรุ่น T Air X หากต้องการซีลถุงขยะเพื่อนำไปทิ้ง ก็เพียงแค่กดที่ปุ่มสัมผัสค้างไว้จนกว่าจะได้ยินเสียงเตือนสองครั้ง เครื่องจะทำการซีลถุงขยะให้ และหลังจากที่ซีลเสร็จแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่หยิบขยะไปทิ้งเท่านั้นค่ะ หลังจากที่หยิบถุงขยะเดิมออกจากเครื่องไปแล้ว เครื่องจะทำการดูดถุงขยะใบใหม่ให้แนบกับตัวถังเองอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องกดอะไรเพิ่มเติมเลยค่ะ แต่สำหรับตัว T Air Lite เองก็ใช้งานคล้ายๆ กันนั่นก็คือ จะมีปุ่ม Package สำหรับกดซีลถุงขยะ และตัวถุงขยะใหม่ก็จะเตรียมพร้อมให้โดยอัตโนมัติเลยค่ะ แต่ตัวนี้จะไม่มีระบบดูดถุงขยะใหม่ให้แนบตัวถังเหมือน T Air X นะคะ จะต้องทำการกดถุงลงไปเองหรือทิ้งของที่มีน้ำหนักลงไป และใครที่กังวลว่าเรื่องขยะล้นหรือเกินออกมาจากขอบฝาถังขยะ ทั้งสองรุ่นสามารถซีลได้แม้ขยะล้น เพียงแค่ยกฝาขึ้น และกดซีลตามปกติเท่านั้น โดยที่มือคุณไม่ต้องสัมผัสขยะ ไม่ต้องกดลงเพื่อให้เครื่องทำงาน ลดการสัมผัสเชื้อโรคไปอีกทางค่ะ

Townew Smart Trash Can T-Air Lite สีเทา

 

สำหรับความจุของเจ้าถังขยะตัวนี้ ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป โดยรุ่น T Air lite จะมีความจุอยู่ที่ 16.6 ลิตร และ T Air X จะมีความจุอยู่ที่ 13.5 ลิตร ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าขนาดออกแบบมาพอดีสำหรับการทิ้ง 1-2 วัน/ครั้ง มาพร้อมกับตลับถุงขยะที่เพียงพอต่อการใช้งานหนึ่งเดือน เนื่องจากถุงขยะสามารถเปลี่ยนได้ประมาณ 25-28 ครั้ง/ตลับ และสำหรับตัวตลับเปลี่ยนที่จำหน่ายแยก ที่เห็นเป็นขอบสีขาว แต่เมื่อทำการใส่ไปในเครื่องแล้วสีขอบตลับจะไม่ออกมารบกวนสายตาแต่อย่างใด และวิธีการเปลี่ยนตลับก็ทำได้ง่ายๆ โดยยกฝาครอบตลับด้านบนเครื่องขึ้น ทำการเปลี่ยนตลับและปิดฝาครอบก็พร้อมใช้งานต่อได้ทันที และถุงขยะของ Townew ใช้เป็นวัสดุ PP ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ก็ทนต่อการรับน้ำหนักที่มีปริมาณมากได้ แถมยังไม่มีกลิ่นด้วยนะคะ นอกจากจะง่ายและสะดวกแล้วยังเป็นมิตรต่อโลกด้วย
 
หากใครยังกังวลในเรื่องเสียงรบกวน ว่าจะเสียงดังรึเปล่า หรือกินไฟมั้ย ใช้ได้นานรึเปล่า บอกเลยว่าสบายหายห่วงได้เลยค่ะ เพราะทั้ง 2 รุ่น ถูกออกแบบมาอย่างพิเศษ ทำให้ปราศจากเสียงรบกวน เสียงขณะทำงานและตอนที่ซีลถุงขยะถือว่าเบากว่ารุ่นก่อนๆ มากเลยค่ะ แถมยังมีเทคโนโลยีการลดแรงสั่นสะเทือนด้วยในรุ่น T Air X เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่เกิดจากการปิดฝาถังขยะค่ะ แต่สำหรับตัวฝาเวลาเปิด-ปิด ก็จะมีเสียงมอเตอร์เล็กน้อย แต่ถ้าต้องเปิดปิดบ่อยๆก็อาจจะทำให้รำคาญได้ค่ะ สำหรับเรื่องการใช้พลังงาน รุ่น T Air Lite ชาร์จไฟเพียง 2 ชั่วโมงผ่านช่องชาร์จ Type C ด้านหน้าก็อยู่ได้ถึง 40 วัน และยิ่งกว่านั้นในรุ่น T Air X ชาร์จไฟ 5 ชั่วโมงผ่านช่อง Micro USB ที่อยู่ด้านหลังเครื่องก็สามารถใช้งานได้ถึง 50 วันเลยล่ะค่ะ และทั้ง 2 รุ่นจะมีเสียงเตือนเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดด้วยค่ะ
Townew T Air Lite Smart Trash Can - Townew.be
แล้วถังรุ่นไหนเหมาะกับใคร เรามาสรุปกันแบบง่ายเลยนะคะ โดยรุ่น T Air Lite นั้น เหมาะกับการเอาวางไว้ในจุดที่ไม่ได้ทิ้งขยะที่มีกลิ่น เนื่องจากตัวถังจะไม่มีฝา หรือเหมาะกับการวางไว้ในจุดที่ต้องการให้ทิ้งได้ง่ายๆ รวดเร็ว เช่น ในออฟฟิศ ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ที่ทิ้งขยะพวกกระดาษหรือของแห้งๆ และสำหรับรุ่น T Air X จะเป็นถังขยะที่มีฝาปิด จะเหมาะกับการวางไว้ในห้องครัว ห้องน้ำ ที่อาจจะต้องมีการทิ้งขยะที่มีกลิ่นหรือสกปรกในระดับหนึ่ง หรือเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ต้องการให้แขกเห็นขยะในถังเพื่อความสวยงามของบ้าน
 
สุดท้ายเรื่องของราคา T Air X ราคาจะอยู่ที่ 3,650 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ สีขาวและสีส้มค่ะ ส่วน T Air Lite จะมีราคาอยู่ที่ 2,100 บาท มีให้เลือก 2 สี คือสีขาวและสีเทาค่ะ สำหรับอุปกรณ์ในกล่องทั้ง 2 รุ่น ประกอบไปด้วย ตัวเครื่องพร้อมตลับถุงขยะ สายชาร์จและคู่มือการใช้งานภาษาไทย สำหรับหัวอะแดปเตอร์ไม่มีมาให้นะคะ และนอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมประกันศูนย์ไทย 1 ปี สำหรับใครที่สนใจและอยากจะจับจองเป็นเจ้าของ ก็สามารถสั่งซื้อหรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์เลยนะคะ
ดูถังขยะซีรี่ย์ T-Air ที่นี่ – Townew Smart Trash Can T-Air Series

 1,004 total views,  1 views today

You cannot copy content of this page